App monetization: รายได้จาก Application มาจากไหน?

Business
5 mins read
5 mins read

Published

21 January, 2021

Language

English

Written by

Share

App monetization: รายได้จาก Application มาจากไหน?

ทำไมถึงควรลงทุนในการทำแอปพลิเคชัน? เพื่อสร้าง Awareness เพิ่มฐานลูกค้า หรือแม้แต่เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร คำตอบของแต่ละคนอาจจะตอบได้หลากหลาย แต่ในท้ายที่สุดแล้ว การสร้างรายได้และผลกำไรก็ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรลงทุนหรือไม่ นอกเหนือจากแอปพลิเคชันที่ต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลด หลายท่านอาจจะสงสัยว่าแอปฯ ฟรีที่โหลดใช้กันในทุก ๆ วันนั้นสร้างรายได้อย่างไร ในบทความนี้เราจะกล่าวถึง Revenue Model ของการทำแอปพลิเคชันที่ได้ผลกำไร ว่ามีอะไรบ้าง

In-App Advertising

แอปพลิเคชันรูปแบบนี้จะปล่อยให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดฟรี แต่จะใช้การขายพื้นที่สื่อโฆษณาให้กับบริษัทที่ต้องการเข้าถึงผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างรายได้ แค่เพียงผู้ใช้กดดูโฆษณา ซึ่งโมเดลนี้เป็นโมเดลที่ง่ายที่สุดจึงมีการแข่งขันที่สูงระหว่างแอปด้วยกัน ทำให้ยากในการดึงดูดผู้ที่จะมาลงโฆษณา ดังนั้น เงินที่ได้ในแต่ละคลิกอาจจะไม่สูงมากนัก อย่าง Facebook เป็นต้น 

(Image: Medium)

Freemium

หนึ่งในโมเดลธุรกิจที่ใช้กันแพร่หลาย ซึ่งคำว่า Freemium มาจากคำว่า Free รวมกับคำว่า Premium ซึ่งความหมายของมันก็ตรงตัว คือลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และใช้ได้ฟรีในเวอร์ชันปกติ แต่ถ้าลูกค้าท่านไหนอยากได้ความพรีเมียมเพิ่มขึ้นอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นด้านคอนเทนต์ อัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือแม้แต่การตัดโฆษณาออก ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการบริการนั้น ๆ ซึ่งโมเดลนี้มีข้อดีตรงที่ สามารถเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทดลองก่อนได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายกว่าแอปที่ต้องเสียเงินดาวน์โหลด เช่น Youtube Premium

(Image: Youtube)

Premium Apps (Paid Apps)

ชื่อของโมเดลนี้บ่งบอกได้เลย ว่าเป็นแอปที่ต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลด เป็นการสร้างรายได้จากยอดการดาวน์โหลด ยิ่งมีผู้ใช้มากยิ่งมีรายได้มาก ดังนั้นแอปประเภทนี้จะต้องมีจุดขายที่แข็งแกร่งที่สามารถดึงดูดให้ผู้ใช้บริการเลือกที่จะดาวน์โหลดแบบเสียเงินมากกว่าใช้แอปฯ ฟรี ซึ่งแอปประเภทนี้ส่วนมากที่พบจะเป็นประเภทเกมส์ หรือ Tools ต่าง ๆ ที่มีความโดดเด่นเฉพาะ

(Image: androidauthority.com)

In-App Purchases

เป็นกลยุทธิ์ที่สร้างการขายให้เกิดขึ้นภายในแอปพลิเคชันโดยการขายสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม เช่น การแลกสกุลเงินในเกมส์ การเติมเกมส์ การอัปเกรดฟีเจอร์บางอย่าง หรือแม้แต่การขายของผ่านแอป E-Commerce นอกจากนั้น ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับนักการตลาดในการทำโฆษณาและโปรโมชันต่าง ๆ ได้อีกด้วย

(Image: Google Play)

Subscription

โมเดลที่อิงจากระบบการสมัครสมาชิก โดยผู้ใช้จะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปีเพื่อใช้บริการ หรือเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจสตรีมมิ่ง เช่น Netflix หรือ Adobe ที่ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายค่า Subscription รายเดือนก่อนถึงจะสามารถใช้บริการได้

(Image: 9to5google.com)

Sponsorship

เป็นโมเดลที่ค่อนข้างใหม่ โดยอาศัยการเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทที่ต้องการทำโฆษณา ซึ่งจะลงทุนโดยการให้ Incentive อาจจะเป็นเงินค่าตอบแทน รางวัล หรือคูปอง กับผู้ใช้หรือทำตามเงื่อนไขบางอย่างภายในแอปฯ ดังนั้น เจ้าของแอปสามารถสร้างรายได้จากส่วนแบ่งของคนที่แลกของรางวัล

(Image: thereporter.asia)

(Image: Dtac)

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านได้เห็นภาพมากขึ้นว่า Applicationในปัจจุบันนี้ สามารถสร้างรายได้จากจากกลยุทธิ์ไหนบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกโมเดลให้เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Beyond the Labs

Explore all

Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
Inbound Marketing การตลาดแห่งการดึงดูด
การทำการตลาดในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากเพราะวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในอดีตไม่ได้แปลว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตด้วยเสมอไปประกอบการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆทำให้นักการตลาดต้องมีการปรับรูปแบบการทำการตลาดในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนและคอยส่งมอบคุณค่าเพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพInbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน Content ต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะทำผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านสื่อ Social Media ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนั้น Inbound Marketing เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันทำให้การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing นั้นทำง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้การทำ Inbound Marketing ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วยหลักการของ Inbound MarketingAttractสร้าง
20 August, 2025

by

How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
20 August, 2025

by

การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจ Startup หรือ Pivot or Preserve
อีกหนึ่งบททดสอบสำหรับการทำ Lean Startup ก็คือ Pivot หรือ Preserve ซึ่งหมายถึง การออกแบบหรือทดสอบสมมติฐานของผลิตภัณฑ์หรือแผนธุรกิจใหม่หลังจากที่แผนเดิมไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดคิด จึงต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุดตัวอย่างการทำ Pivotตอนแรก Groupon เป็น Online Activism Platform คือแพลตฟอร์มที่มีไว้เพื่อสร้างแคมเปญรณรงค์หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสังคม ซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้งานเลย และแล้วผู้ก่อตั้ง Groupon ก็ได้เกิดไอเดียทำบล็อกขึ้นในเว็บไซต์โดยลองโพสต์คูปองโปรโมชั่นพิซซ่า หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาคิดใหม่และเปลี่ยนทิศทางหรือ Pivot จากกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นกลุ่มลูกค้าจริงPivot ถูกแบ่งออกเป็น 8 ประเภทCustomer Need
20 August, 2025

by

SAY
Say Hello
HELLO
Get started

Let's build digital products that are simply awesome!

SAY
Say Hello
HELLO
Get started

Let's build digital products that are simply awesome!

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy