จาะลึก UX Process #3.1 ความต้องการของผู้บริโภค

Design
7 mins read
7 mins read

Published

23 December, 2020

Language

English

Written by

Share

เจาะลึก UX Process #3.1 ความต้องการของผู้บริโภค

"User Journey", "User Need", "User Insight", "User Requirement" คำเหล่านี้น่าจะเป็นสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง มากันอย่างนับไม่ถ้วนในบริบทของการทำงาน  ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ UX designer ต้องศึกษาค้นคว้า และวิเคราะห์ออกมาให้ได้ว่าผู้ใช้งานต้องการอะไรจากสินค้าและบริการนั้น ๆ

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับแนวคิดการออกแบบเพื่อผู้ใช้งานโดยใช้ Design Thinking แล้วเข้าใจว่าคือเรื่องเดียวกันกับการทำ User Experience Design แต่ที่จริงแล้วมุมมองในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นต่างกัน โดยที่ 

  • Design Thinking นั้นเริ่มคิดจากการที่ไม่มีธุรกิจอะไรเลย เลยสามารถเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจกลุ่มคนที่มีปัญหาคล้าย ๆ กันแล้วพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพื่อตอบสนองปัญหาและความต้องการของคนกลุ่มนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะต้องถูกยอมรับโดยพวกเขาด้วยเช่นกัน 

  • User Experience มีแนวคิดว่าควรออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างไร ให้มีภาพรวมออกมาราบรื่น กลมกล่อมที่สุดและยังต้องตอบโจทย์ทั้งในด้านธุรกิจ ความต้องการของกลุ่มลูกค้า และเทคโนโลยีที่สามารถรองรับกับรูปแบบทั้งหมดได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่ผู้พัฒนา UX ต้องทำความเข้าใจเพื่อให้มองเป็นภาพเดียวกันทั้งทีม และเข้าใจกระบวนการ รวมถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งาน มีหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้

 

(Image: behance.net)

รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร

หรือที่เราเรียกว่าการทำ Persona เพื่อบ่งบอกว่ากลุ่มผู้ใช้งานของเราเป็นใคร โดยการระบุรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น

• ชื่อ
• มุมมอง, แนวคิด, ทัศนคติ, ความเชื่อ
ที่อยู่อาศัย
• อาชีพ
• สถานะ: โสด, แต่งงาน, หย่าร้าง,มีลูกกี่คน ฯลฯ
• การศึกษา
• รายได้
• สิ่งที่สนใจ ชีวิตประจำวัน ตื่นกี่โมง เดินกิน นั่งนอน อย่างไร
• งานอดิเรก
• มุมมองต่อสินค้าและบริการ
• ปัญหา (Pain Points)
• แรงจูงใจต่อสินค้าและบริการ
• ความรู้สึกก่อน และหลังใช้สินค้าและบริการ
• พฤติกรรมบนโลกดิจิทัล
• สื่อหรือบุคคลที่มีอิทธิพล ทั้งความคิด และแรงจูงใจที่ผลักดันความคิด ความต้องการ

 

ถ้าเราได้ภาพรวมของ Persona มาแบบละเอียดแล้ว เราจะสามารถรู้ได้ว่า เขาเป็นคนอย่างไร, คิดอะไร, ชอบหรือไม่ชอบอะไร, เห็นอะไร, ใช้สื่ออะไรในระหว่างวัน ต้องสื่อสารออกไปอย่างไรถึงจะเกิดความสนใจ รวมไปถึงความต้องการ แรงจูงใจและบุคคลที่สามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำ User Journey เพื่อนำมาวางแผนการดำเนินงานตามความต้องการของระบบและธุรกิจ

รายละเอียดของ Persona ทั้งหมดทำให้เราพอจะเห็นแล้วว่า ควรใช้ช่องทางใดในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ สื่อสารในเวลาไหน ให้ใครเป็นผู้แนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนใกล้ตัว หรือ Influencer ต่าง ๆ  ใช้คำแบบไหนในการสื่อสาร และควรมี Killing Feature อะไรบนสินค้าและบริการเรา เพื่อให้ตอบสนอง Pain Point และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

เข้าใจ Moment ของผู้ใช้งาน

ก่อนที่จะทำ User Journey นั้น ควรเข้าใจก่อนว่าผู้ใช้งานมีขั้นตอน กระบวนการคิด และการกระทำอย่างไรบ้าง พบเจอปัญหาต่าง ๆ ในช่วงเวลาใด โดยใช้หลัก Zero moment of truth ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่โดย google ดังนี้

ZMOT: The New Mental Model of Marketing (Image: think with google)

  • Stimulus - ขั้นตอนที่มีสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการรับรู้ว่ามีแบรนด์ สินค้า หรือบริการนี้อยู่ ซึ่ง Message ที่จะส่งไปให้กลุ่มเป้าหมายจะต้องสอดคล้องกับสิ่งที่เขาจะดำเนินต่อไป หรือสิ่งที่เขาคาดหวังว่าจะเจอ

  • Zero Moment of Truth - เป็นขั้นตอนที่กลุ่มเป้าหมายเริ่มมีการค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ซึ่งขั้นตอนนี้จะส่งผลต่อการวางแผนช่องทางในการหาข้อมูลของผู้ใช้งาน เช่น ต้องมีเว็บไซต์หรือไม่, ต้องมี Facebook Page หรือไม่, ควรใช้ Line Massenger ในการให้ข้อมูลดีหรือไม่ หรือควรทำ SEO Content เพื่อรองรับการเข้าถึงข้อมูลของพวกเขา ซึ่งคำถามเหล่านี้จะถูกตอบได้ด้วย Persona ที่เราได้สร้างไว้ว่าพวกเขาใช้ช่องทางสื่อแบบไหน ชอบอะไร และไม่ชอบอะไรนั่นเอง

  • First Moment of Truth - เป็นขั้นตอนที่กลุ่มเป้าหมายของเราพร้อมที่จะใช้สินค้าและบริการ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องตัดสินใจว่าจะนำไปใช้ จะซื้อหรือไม่ ดังนั้น การออกแบบ Journey จะต้องสอดคล้องกันตั้งแต่คลิกแรกที่ผู้ใช้กดเข้ามาหาเว็บไซต์เรา หรือก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน ในขั้นนี้เราจึงต้องพร้อมที่จะแนะนำสินค้าและบริการได้อย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมาตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

    การออกแบบ UX ในมุมของ Digital Product นั้น ต้องคิดถึงกลุ่มเป้าหมายในเรื่องการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและการเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึงได้อย่างราบรื่น ตรงกับสื่งที่เราชักนำเขาเข้ามาหาเราและตามที่เขาคาดหวังไว้

    นอกจากนั้น หลาย ๆ สินค้าและบริการมีการดำเนินการผิดพลาดในการใช้ข้อความหรือภาพ โปรโมชัน ไปในทางที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และในบางครั้งที่ธุรกิจทำการโปรโมตผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อผู้ใช้งานสนใจและคลิกเข้ามาแล้วกลับไม่พบสิ่งที่ตามหา ซึ่งข้อผิดพลาดนั้นอาจเกิดจาก ความไม่พร้อมของโปรดักต์ ความผิดพลาดในการใช้ข้อความหรือภาพที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราจึงต้องควรระวังและเลือกใช้ให้เหมาะสม และต้องอย่าลืมว่าผู้ใช้งานในปัจจุบันจะใช้เวลาเพียง 4 -5 วินาทีเท่านั้นในการสนใจและยอมรับผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และเข้าใจง่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสินค้าและบริการที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว (อาจจะแตกต่างไปตามประเภทของสินค้าและบริการ)

  • Second Moment of Truth - ขั้นสุดท้ายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้ได้ทดลองใช้สินค้าและบริการของเรา แล้วเกิดความรู้สึกต่อสินค้าและบริการนั้น ๆ ซึ่งส่งผลต่อการกระทำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ อยากติชม อยากบอกต่อให้เพื่อนใช้ หรืออยากแชร์ประสบการณ์ไปยัง Social media เป็นต้น

เมื่อเราเข้าใจ กลุ่มผู้ใช้งานและ Moment ต่าง ๆ รวมถึงช่องทางที่เป็นจุดสัมผัส (Costomer touchpoint) ของสินค้าและบริการกับผู้ใช้งานแล้ว ต่อไปจะเป็นการวิเคราะห์และออกแบบ User Journey เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ติดตามอ่านต่อได้ในบทความหน้าได้เลยครับ

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Share

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Beyond the Labs

Explore all

UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
หลายคนคงเคยเจอเหตุการต่างๆ บนโลกดิจิทัลที่สามารถนำพาเราไปเสียเงินหรือสมัครใช้บริการได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่า พวกเขาเหล่านั้น ใช้วิธีหลอกล่อนักชอปอย่างเรากันอย่างไรบ้าง พื้นฐานของคนทั่วไปนั้นไม่อยากที่จะสูญเสียอะไรไป แม้แต่สิ่งที่อาจจะไม่จำเป็น เราอาจจะพบการทำการตลาดในเชิงนี้ได้บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้ตัว และอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อแต่โดนกระตุ้นด้วยข้อมูลที่เรารับมาแบบงง ๆ เช่น Flash sale 40% สินค้าที่มีจำนวนจำกัด นั้นจะน่าสนใจมากกว่าการเดินเจอสินค้าเดียวกันในห้างที่ลดราคา 40% เช่นเดียวกัน ข้อความบนเว็บช็อปปิ้งที่ส่งมาหาคุณว่าสินค้าที่คุณเคยสนใจกำลังลดราคาอยู่ อย่าพลาดโอกาสที่จะซื้อตอนนี้ มักกระตุ้นความต้องการซื้อของเราได้เป็นอย่างดี เพราะเรากลัวที่จะเสียโอกาสดี
20 August, 2025

by

ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
แต่ก่อน เวลาที่เว็บไซต์ถูกดีไซน์ด้วยฟอนต์แปลก ๆ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ผู้ใช้งานบางคนมองไม่เห็น เพราะในเครื่องของผู้ใช้งานไม่มีฟอนต์นั้น ระบบก็จะเลือกเอาฟอนต์อื่นในเครื่องขึ้นมาแสดงผล เห็นเป็นฟอนต์อื่นไป ทำให้ดีไซเนอร์ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำรูปแล้วเอามาแปะในเว็บไซต์แทน หรือแม้ว่าจะแสดงผลตามที่ถูกออกแบบมา ความเร็วก็อาจเป็นปัญหาในการโหลดและเข้าถึง เพราะฟอนต์ถูกโหลดจากเซิร์ฟเวอร์แต่สมัยนี้ไม่มีใครใจเย็นพอที่จะรออะไรนานๆ เพราะจากรายงานระบุว่า 40% ของคนที่เข้าเว็บไซต์ จะออกหรือปิดทันทีถ้ามีการโหลดนานกว่า 3 วินาที โดยเฉพาะนักช็อปออนไลน์เกือบครึ่งที่พร้อมจะหันหลังให้อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ที่โหลดช้ากว่า 2 วินาที และ 79% บอกว่ามีโอกาสที่จะไม่ใช้บริการอีกGoogle Fonts คืออะไร? (กันแน่)หลายคนคงรู้จัก Google Fonts แต่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้น
20 August, 2025

by

How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
20 August, 2025

by

SAY
Say Hello
HELLO
Get started

Let's build digital products that are simply awesome!

SAY
Say Hello
HELLO
Get started

Let's build digital products that are simply awesome!

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved. | Privacy policy