ลโก้ (Logo) คืออะไร ทำไมต้องมี(ดี)

3 mins read

Published

16 November, 2020

Language

English

Written by

Share

โลโก้ (Logo) คืออะไร ทำไมต้องมี(ดี)

ถ้าอยากเป็นที่จดจำ เราต้องมีตัวตน และต้องให้คนเห็น เช่นเดียวกับแบรนด์ องค์กร หรือธุรกิจ แต่ก่อนที่คนจะสัมผัสแบรนด์ สิ่งที่พอจะบอกลูกค้าได้ถึงตัวตนของแบรนด์นั้นก็คือ โลโก้ คนจะชอบไม่ชอบ สนใจหรือไม่ โลโก้มีผลต่อการตัดสินใจไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ ลองสมมติว่าคุณจะไปซื้อน้ำหอม มีสองขวดวางอยู่ข้างกัน ดีไซน์ขวดเหมือนกัน กลิ่นเหมือนกัน ต่างกันแค่โลโก้บนขวด คุณก็อาจจะเลือกโลโก้ที่สะท้อนรสนิยม หรือความเป็นตัวคุณมากที่สุด 

โลโก้ (Logo) คืออะไร

โลโก้ หรือ Logotype คือ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง (Symbolism) สามารถเป็นรูปภาพ ตัวอักษร รูปร่าง หรือส่วนผสมระหว่างสามสิ่งนี้ ใช้เป็นตัวแทนของธุรกิจหรือองค์กรในการสื่อสารกับผู้บริโภค ลูกค้าทั้งกลุ่มเป้าหมายและทั่วไป 

โลโก้ที่ดี จะสามารถสะท้อนตัวตนได้ตั้งเเต่แรกเห็น และจดจำง่าย 

ทำไมต้องมีโลโก้?

โลโก้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ must have แต่ always good to have เพราะ...

  • เป็นเสมือนตัวแทนที่สร้างความประทับใจของแบรนด์/ธุรกิจ  
  • บ่งบอกตัวตน
  • แตกต่างจากคู่แข่ง
  • สร้างลูกค้าที่ภักดีกับแบรนด์
  • มีความเป็นมืออาชีพ
  • เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น

ประเภทของโลโก้

มีการแบ่งประเภทของโลโก้ออกเป็น 4 บ้าง 5 บ้าง 7 บ้าง 10 บ้าง แล้วแต่ว่าจะแยกองค์ประกอบกันอย่างไร แต่ในที่นี้จะขอแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. Wordmark

หรือ Logotype เป็นโลโก้ที่เอาชื่อธุรกิจแบบเต็ม ๆ มาใช้โดยตรง เพราะชื่อธุรกิจจะสร้างความแตกต่างได้ระดับหนึ่ง และอาจมีหรือไม่มีความหมายก็ได้ โลโก้ประเภทนี้เน้นการเลือกใช้ฟอนต์ที่เหมาะกับธุรกิจ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น eBay, Google

2. Lettermark

เหมาะกับธุรกิจที่มีชื่อยาว และต้องการเลือกใช้ตัวอักษรย่อ หรือตัวอักษรเดียวให้มีลักษณะพิเศษ แตกต่าง และง่ายต่อการจดจำ เช่น IBM (International Business Machines Corporation), HBO (Home Box Office), NASA (National Aeronautics and Space Administration)

3. Pictorial

เป็นรูปเชิงสัญลักษณ์กราฟฟิกที่จดจำได้ง่าย มักเอาสิ่งที่คนทั่วไปรู้จัก คุ้นชินมาออกแบบเป็นโลโก้ ทำให้คนเห็นแล้วนึกออกว่าคืออะไรได้ทันที เหมาะกับธุรกิจที่คนรู้จักดีระดับหนึ่ง แต่ด้วยความ minimal ของโลโก้ประเภทนี้ ต้องแน่ใจว่ามันจะสื่อความหมายแบบเดียวกับที่เราต้องการ ไม่เช่นนั้นคนอาจจะสับสนได้ ยกตัวอย่างโลโก้ประเภทนี้ เช่น Twitter, WWF, Mc Donald's

4. Abstract

โลโก้ที่ออกแนวนามธรรม มักเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ  แต่ทำให้เกิดความแตกต่างได้ผ่านสี เส้น รูปร่าง ไม่มีกฎตายตัว มีความยืดหยุ่นสูง เช่น Pepsi, Adidas, Spotify

5. Emblem

ประเภทสุดท้ายเป็นแบบตราสัญลักษณ์ อยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน มีหลากหลายรูปทรง เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยม วงรี ประกอบด้วยรูปภาพหรือตัวอักษร มีความคลาสสิก มั่นคง แต่มักมีปัญหาเรื่องการปรับใช้ เพราะหากโลโก้มีรายละเอียดเยอะมาก เวลาย่ออาจจะสูญเสียรายละเอียดและความชัดเจนไป เช่น 8,  Harley-Davidson  

โลโก้ ไม่ใช่แบรนด์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

“Your brand is what other people say about you when you’re not in the room.”

Jeff Bezos CEO, Founder Amazon


เป็นที่เข้าใจผิดกันเรื่อยมา และยังคงสร้างความงุนงนสงสัยอยู่ว่า โลโก้ กับแบรนด์นั้นแตกต่างกันอย่างไร พูดง่าย ๆ ว่าแบรนด์ คือประสบการณ์ การรับรู้ ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อบริษัทนั้น ๆ  ส่วนโลโก้ เป็นเพียงเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ทางการค้า ที่ถูกทำขึ้นเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ และเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

ติดตามอ่านบทความดี ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Machine Learning, Startup, Design, Software Development และ Management ทาง Senna Labs Blog ได้ทุกวัน

Written by
Senna Labs
Senna Labs

Keep me posted
to follow product news, latest in technology, solutions, and updates

More than 120,000 people/day  visit to read our blogs

Beyond the Labs

Explore all

3 July, 2025
UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
หลายคนคงเคยเจอเหตุการต่างๆ บนโลกดิจิทัลที่สามารถนำพาเราไปเสียเงินหรือสมัครใช้บริการได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่า พวกเขาเหล่านั้น ใช้วิธีหลอกล่อนักชอปอย่างเรากันอย่างไรบ้าง พื้นฐานของคนทั่วไปนั้นไม่อยากที่จะสูญเสียอะไรไป แม้แต่สิ่งที่อาจจะไม่จำเป็น เราอาจจะพบการทำการตลาดในเชิงนี้ได้บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้ตัว และอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อแต่โดนกระตุ้นด้วยข้อมูลที่เรารับมาแบบงง ๆ เช่น Flash sale 40% สินค้าที่มีจำนวนจำกัด นั้นจะน่าสนใจมากกว่าการเดินเจอสินค้าเดียวกันในห้างที่ลดราคา 40% เช่นเดียวกัน ข้อความบนเว็บช็อปปิ้งที่ส่งมาหาคุณว่าสินค้าที่คุณเคยสนใจกำลังลดราคาอยู่ อย่าพลาดโอกาสที่จะซื้อตอนนี้ มักกระตุ้นความต้องการซื้อของเราได้เป็นอย่างดี เพราะเรากลัวที่จะเสียโอกาสดี
03 July, 2025

by

UX for Psychology - Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
3 July, 2025
ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
แต่ก่อน เวลาที่เว็บไซต์ถูกดีไซน์ด้วยฟอนต์แปลก ๆ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะทำให้ผู้ใช้งานบางคนมองไม่เห็น เพราะในเครื่องของผู้ใช้งานไม่มีฟอนต์นั้น ระบบก็จะเลือกเอาฟอนต์อื่นในเครื่องขึ้นมาแสดงผล เห็นเป็นฟอนต์อื่นไป ทำให้ดีไซเนอร์ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำรูปแล้วเอามาแปะในเว็บไซต์แทน หรือแม้ว่าจะแสดงผลตามที่ถูกออกแบบมา ความเร็วก็อาจเป็นปัญหาในการโหลดและเข้าถึง เพราะฟอนต์ถูกโหลดจากเซิร์ฟเวอร์แต่สมัยนี้ไม่มีใครใจเย็นพอที่จะรออะไรนานๆ เพราะจากรายงานระบุว่า 40% ของคนที่เข้าเว็บไซต์ จะออกหรือปิดทันทีถ้ามีการโหลดนานกว่า 3 วินาที โดยเฉพาะนักช็อปออนไลน์เกือบครึ่งที่พร้อมจะหันหลังให้อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ที่โหลดช้ากว่า 2 วินาที และ 79% บอกว่ามีโอกาสที่จะไม่ใช้บริการอีกGoogle Fonts คืออะไร? (กันแน่)หลายคนคงรู้จัก Google Fonts แต่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้น
03 July, 2025

by

ทำไม Google Fonts ถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการออกแบบเว็บไซต์
3 July, 2025
How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business
S&P Food’s yearly revenues were 435 mils $USD. 10% of the revenue was from online sales. The board of directors felt that online sales should account for more. The digital
03 July, 2025

by

How SennaLabs helped S&P Food transform their online e-commerce business

Let’s build digital products that are
simply awesome !

We will get back to you within 24 hours!Say hello
Please tell us your ideas.
- Senna Labsmake it happy
Contact ball
Contact us bg 2
Contact us bg 4
Contact us bg 1

Contact Senna Labs at :

hello@sennalabs.com28/11 Soi Ruamrudee, Lumphini, Pathumwan, Bangkok 10330+66 62 389 4599
© 2022 Senna Labs Co., Ltd.All rights reserved.